วันอังคารที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2556

10 วิธีกินให้มีสุขยุคอาหารราคาแพง



เผย 10 วิธีกินให้มีสุขให้มีสุขยุคอาหารแพง  พร้อมลดปัจจัยเสี่ยงด้านสุขภาพและเพิ่มคุรค่าทางโภชาการในแต่ละมื้อ  หวังสร้างสุขภาพดี  ลดปัญหาโรคความดันโลหิตสูง  โรคหัวใจ  และโรคอ้วน
                ปัจจุบันการดำเนินชีวิตและการดูแลสุขภาพจำเป็นต้อวยึดหลักความเหมาะสมและพอเพียง  โดยเฉพาะปัยหาด้านสาธารณสุขที่เหิดจากกินอาหารในปริมาณมากเกินไป  ไม่ถูกหลักโภชนาการ  ส่งผลให้เกิดภาวะโรคเบาหวาน  โรคความดันโลหิตสูง  และโรคอ้วนลงพุงตามมา  ซึ่งเป็นปัยหาที่กรมอนามัยจำเป็นต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วน  เพราะคนที่อ้วนลงพุงเป็นโรคเบาหวานมากกว่าคนไม่อ้วนลงพุง 3 เท่า  มีความดันโลหิตสูงและไขมันคอเรสเตอรอล  ซึ่งเป็นไขมันตัวร้ายมากกว่า 2 เท่าตัว  และคนอ้วนลงพุงจะเสียชีวิตจากโรคหัวใจวายมากกว่าคนทั่วไปถึง 2 เท่าตัว
                เพื่อลดปัยหาและสร้างสุขภาพดีให้กับตนเองประชาชนจึงควรพานำหลังพอเพียงมาใช้ในการกินอาหารแต่ละมื้อด้วย  โดยกินอาหารไห้ได้สารอาหารและพลังงานที่เพียงพอกับความต้องการของร่างกายแต่ละวัน  หากรู้สึกอิ่มให้ลดหรืองดการกินเพราะความอยาก  ความอร่อย  กินอาหารเพื่อบำรุงร่างกายให้แข็งแรง  ไม่กินอาหารรสหวาน  เค็ม  มันมากไป  หรือสร้างพฤติกรรมการกินอย่าง่ายภายใต้หลัก 10 วิธีกินในยุคอาหารแพง  ได้แก่
                1) กินพออิ่มในแต่ละมื้อ  โดยตักอาหารกะปริมาณพอดี  เช่น  ตักข้ายสวย 1 – 2 ทัพพี  ผัก 4 – 6 ช้อนกินข้าว  เนื้อสัตว์ 2 – 3 ช้อนกินข้าว  แล้วตามด้วยผลไม้ 1 – 2 ส่วน  ตามด้วยน้ำสะอาด 1 – 2 แก้ว  ก้เพียงพอ
                2) ดัดแปลงอาหารที่เหลือเป็นอาหารที่เหลือเป็นอาหารจานใหม่  เช่นผัดคะน้า  นำมาต้มจับฉ่ายผสมกับอื่นๆ  น้ำแกงส้มที่เหลือสามารถเติมถั่วฝักยาวมะละกอ  แครอท  ผัดบุ้ง  ส่วนผลไม้ที่เหลือหลายชนิดน้มาเป็นสลัดผลไม้  หรือ  ปลาทูทำให้ได้อาหารจานใหม่  และใช้ประโยชน์จากอาหารได้คุ้มค่าไม่มีอาหารเหลือทิ้ง
                3) ทำอาหารปริมาณมากกินได้หลายมื้อ  เช่น  ต้มไข้พะโล้หนึ่งหม้อกินได้ทั้งวัน  อาจเติมหน่อไม้จีนหรือผัดอื่นลงไปด้วยหรือกินร่วมกับผักสด  เช่น  แตงกวา  ผักกาดหอมหรือผักกาดขาวหรือคะน้าลวก
                4) หุงข้าวผสมข้าวโพด  ถั่ว  เผือก  มัน  ใส่เพื่อเพิ่มวิตามินและยังได้อาหารอื่นๆ  เพิ่มด้วย  และตอนนี้ข้าวราคาแพงจึงใส่ข้าวโพด  ถั่ว  เผือก  มัน  เสริมเข้าไปในข้าว  จะทำให้ข้าวในปริมาณน้อยลงด้วย
                5) ปรับเมนูอาหารคุณภาพดีราคาถูก  เช่น  ไข่พะโล้เพราะปกติใส่หมูกับไข่เท่านั้น  ก็เปลี่ยนจากหมูมาเป็นเต้าหู้แทนก็ได้
                6) ลดการกินจุบกินจิบ  กินอาหารหลัก 3 มื้อก้เพียงพอแล้ว  อาหารว่างเป็นผลไม้หรือนม
                7) งดกินอาหารมื้อดึก  เพราะกินอาหารมื้อดึกเข้าไปแล้วในช่วงเวลานั้นไม่มีการออกำลังกายหรือเคลื่อนไหวร่างกายใดๆ  มีแต่การนอนทำให้ร่างกายเผาผลาญอาหารที่กินไปน้อยมากและจะสะสมเป็นไขมันแทนทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นได้
                8) เคี้ยวอาหารช้าๆ  อย่ารีบริ้น  ซึ่งจะทำให้รู้สึกอิ่มเร็วกว่าเพราะร่างกายเราจะเริ่มอิ่มอมื่อกินอาหารไปประมาณ 20 นาที
                10 ) เน้นกินอาหารไทย  เช่น  ข้าวราดแกง  ก๋วยเตี๋ยวขนมจีน  แทนอาหารจานด่วนตะวันตก  นอกจากราคาถูกแล้วยังให้สารอาหารอาหารราบถ้วนและสมดุล  นพ. ณรงค์ศักดิ์  กล่าว
                สิ่งสำคัญสำหรับการกินอาหารให้ได้คุณค่าโภชนาการคือควรกินอาหารในแต่ละมื้อให้ครบ 5 หมู่  คืออาหารประเภทแป้ง  ไขมัน  เนื้อสัตว์นั้นจะเน้นให้กินปลา  เนื้อสัตว์ที่ไม่ติดมัน  ไข่  ถั่วประเภทต่างๆ  และเมล็ดธัญพืชเป้นประจำ
                นอกจากอาหารหลัก 5 หมุ่  แล้ว  ควรได้รับอาหารประเภทเมนูชูสุขภาพใน 4 กลุ่มคือ  กลุ่มอาหารที่ให้ใยอาหารสูงเพื่อช่วยให้การขัดถ่ายสะดวกขึ้น  อาหารที่อยู่ในกลุ่มวิตามินเอและธาตุเหล้กสูง  เพื่อช่วยเพิ่มความต้านทานโรคทำให้ร่างกายแข็งแรงและช่วยการเจริญเติฐโตของเด็กอาหารในกลุ่มอาหารที่มีไขมันต่ำ  ประชาชนผู้บริโภคจึงควรตะหนักและรู้จักเลือกกินอาหารที่เหมาะสมในยุดเศรญฐกิจพอเพียง  เพื่อสุขภาพที่ดีของตนเอง
                ที่มา : นิตยสาร เคล็ดลับการกินเพื่อชีวิตที่ดีกว่า

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น