วันอังคารที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2556

มะเร็ง…ป้องกันได้ด้วยอาหาร


คนส่วนใหญ่กลัวมะเร็ง  เพราะแต่ละปีมีผู้เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งชนิดต่างๆ  เป็นจำนวนมาก  ดังนั้น  นิกวิชาการจึงทำการศึกษาและพบว่าอาหารจากธรรมชาติสามารถช่วยป้องกันมะเร็งได้
วิตามินซี  จากการพบว่าผู้ป่วยมะเร็งมีวิตามินซีในเส้นเลือดน้อยเกินไปทั้งนี้  วิตามินซีช่วยป้องกันการทำลายหัวใจอันเนื่องจากยารักษามะเร็ง (เช่น Doxorubicim) และเป็นที่ต้องสงสัยว่าผลข้างเคียงจากการทำคีโมและการฉายแสงทำให้ปริมาณวิตามินซีลดลง
อาหารที่มีวิตามินซี  ควรกินผักและผลไม้เป็นประจำสม่ำเสมอ  เช่น  ฝรั่ง  ส้ม  สตรอเบอร์รี่  กีวี  พริกหวาน  บร๊อกโคลี่  และกะหล่ำ
ข้อควรระวัง  วิตามินซีอัดเม็ดส่วนมากมีความเข้มจ้นเกินไป  ควรกินไม่เกินวันละ 100 กรัม
ผลข้างเคียง  ผู้ที่สูบบุรี่จัดไม่ควรกินวิตามินซีมากเกินไป  เพราะจากการศึกษาพบว่าจะเพิ่มความเสี่ยงกับโรคปอดกับมะเร็งปอด  และมีผลในการลดประสิทธิภาพของยาบางชนิดหรืออาจเร่งปฏิกิริยาของยาให้แรงขึ้น  ดังนั้น  จึงควรสอบถามแพทย์เมื่อต้องกินยารักษาโรค
วิตามินอี  ช่วยป้องกันเชลล์จากปัจจัยเสี่ยงของโรคมะเร็ง (เช่น  รังสียูวี  สารเคมี)  โดยเฉพาะผู้ป่วนที่เป็นโรคมะเร็งกระเพราะและลำไส้  รวมทั้งมะเร็งเม็ดเลือดขาวผู้ป่วยกลุ่มนี้มีวิตามินอีในเลือดน้อยเกินไป  อาหารที่มีวิตามินอี  เช่น  เมล็ดพืชน้ำมันข้าวสาลี  น้ำมันดอกทานตะวัน ฯลฯ
ข้อควรระวัง  ผู้ที่สูบบุรี่ไม่ควรกินวิตามินอีมาก  เพราะจะช่วยเพิ่มความเสี่ยงกับโรคมะเร็งปอดเช่นเดียวกับวิตามินซี
เบต้าแคโลทีน  ช่วยในการเจริญเติบโตของเซลล์และช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรง  อาหารที่มีเบต้าแคโรทีน  เช่น  ถั่วสีเขียว  แครอต  บล็อกโคลี่  มะเขือเทศและฟักทอง
ผลข้างเคียง  ผู้ที่สูบบุรี่ไม่ควรกินเบต้าแคโรทีนขนิดอัดเม็ดสำเร็จรูปมากกว่า 20 มิลิกรัมต่อวัน  เพราะมัรจะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคมะเร็ง
ซีลีเนียม  แร่ธาตุตัวนี้ช่วยปกป้องเซลล์  ในผู้ป่วยมะเร็งต่อมลูกหมากมักพบว่ามีซีเนียมในเลือดน้อย  อาหารที่มีซีล๊เนียม  เช่น  เนื้อสัตว์  ไข่  เมล็ด  ข้าวสาลี  และหน่อไม้ฝรั่ง
ผลค้างเคียง  สัญญาณที่เตือนว่ากินซีลีเนียมากไปก็คือลิ้นจะรู้สึกรับรสของโลหะ
สังกะสี  นอกจากธาตุเหล็กแล้วสังกะสีก็เป็นแร่ธาตุจำเป็นอีกตัวหนึ่งในอวัยวะของเรา  จาการศึกษาพบว่าสังกะสีต่ำก็คือ  ติดเชื้อบ่อย  บาดแผลอักเสบรักษายาก  ท้องร่วง  ผมร่วง  เบื่ออาหาร  ซึมเศร้า  อาหารที่มีสังกะสี  เช่น  เนื้อสัตว์นม  และผลิตภัณฑ์จากนม
ผลข้างเคียง  สังกะสีจะขัดขวางการดูดซึมซีวีเนียม  จึงควรที่จะทิ้งระยะการกินให้ห่างกัน  เช่น  เช้าหรือเย็น  ไม่ควรกินสังกะสีพร้อมกับธาตุเหล็ก  และไม่ควรดื่มกาปฟหรือชาดำพร้อมกับทองแดงและแคลเซียม
 ขอขอบคุณ : นิตยสาร Lisa

ดอกคำฝอย ทำได้มากกว่าลดน้ำหนัก


สรรพคุณที่ทำให้ดอกคำฝอยได้แจ้งเกิดในใจชองแฟนๆ มาจากความสามารถในการลดน้ำหนักลดไขมันในเส้นเลือด  แต่ที่จริงแล้วมันยังมีประโยชน์ที่มากกว่านั้น
สลายลิ่มเลือด
คนที่ชอบกินของหวานจะมีน้ำตาลในเลือดสูง  จากนั้นเลือดจะเหนียวข้นจับตัวกลายเป็นลิ่มเลือด  ทำให้ระบบการหมุนเวียนโลหิตไม่ดี  แต่คำฝอยมีสรรพคุณช่วยย่อยสลายลิ่มเลือดให้เล็กลงได้และป้องกันไม่ให้เลือดเกาะตัวกลายเป็นลิ่มเลือดข้นมาใหม่
หัวใจแข็งแรง
เมื่อตัวยาจากดอกคำฝอยสลายลิ่มเลือดไปแล้ว  ร่างกายก็จะมีเลือดไปเลี้ยงที่หัวใจมากขึ้น  ทำให้หัวใจแข็งแรง  และยังลดไขมันอุดตันที่เกาะอยู่ตามหลอดเลือดหัวใจไปในตัว
รักษาแผลกดทับตำราแพทย์โบราณบอกไว้ว่าให้ต้มดอกคำฝอย  500 กรัม  ในน้ำ 7 ลิตรต้มด้วยไฟปลานกลางประมาณ 2 ชั่วโมงจนดอกคำฝอยเป็นสีขาว  ตักกากออกให้เหลือแต่น้ำ  แล้วเคี้ยวด้วยไฟอ่อนๆ  ต่อไปจนน้ำยาเหนียวเป็นกาว  จากนั้นก็เอายาลงบนผ้า  เอาไปปิดที่แผลกดทับ  ทำติดต่อกันประมาณ  1 อาทิตย์  แผลกดทับก็จะหายเอง
ลดโคเลสเตอรอล
คุณสมบัติอันโด่งดังของดอกคำฝอยคือการลดโคเลสเตอรอลนี่เอง  แต่ถึงจะดื่มน้ำดอกคำฝอยแล้วก็ควรจะลดอาหารที่มีไขมันสูงควบคู่ไปด้วย  ถึงจะลดความอ้วนได้ผล
**** หมายเหตุ  ถึงแม้ดอกคำฝอยจะมีดีหลายอย่าง  แต่ถ้าดื่มเอาเป็นเอาตายก็อาจจะกลายเป็นโทษได้เหมือนกัน  เพราะดอกคำฝอยมีคุณสมบัติสลายลิ่มเลือด  ถ้าดื่มมากๆ  จะทำให้โลหิตจาง  เลือดน้อย  แถมยังเหนื่อยง่าย  อ่อนเพลีย  ใจหวิว  มึนศีรษะ  กลายเป็นผู้หญิงขี้โรคไม่รู้ตัว!!!
 ขอขอบคุณ  ที่  นิตยาสาร Spicy

อันตรายจากน้ำมะนาวเทียม


ใครที่ชอบทานส้มตำคงคุ้นตาดีกับภาพแส่ค้าขายส้มตำปรุงรสด้วยน้ำมะนาวสีเขียวใสๆ  ที่บรรจุอยู่ในขวดแก้ว (อันที่จริงก็ไม่ถึงกับทุกร้านหรอกนะครับ)  น้ำมะนาวที่เห็นนั้นเรียกว่าน้ำมะนาวเทียมหรือเกร็ดมะนาว  ให้มีรสเปรี้ยวแหลม  ราคาถูก  อีกทั้งยังมีสีสันคล้ายคลึงกันกับน้ำมะนาวจริงเกือบทุกประการ
สิ่งที่ต้องระวังสำหรับผู้ที่ทานน้ำมะนาวเทียมเป็นประจำก็คือ  เครื่องปรุงรสดังกล่าวผลิตมาจากกรด “ซิตริก”  ซึ่งถูกใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม  มีความบริสุทธิ์น้อยและมีสารปนเปื้อน  ที่สำคัญต่อ สามารถย่อยสลายสิ่งต่างๆได้  ไม่เว้นแม้แต่อวัยวะภายในระบบทางเดินอาหารของผู้บริโภค  ผู้ที่ชื่นชอบอาหารรสแซบทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นต้มยำ  ส้มตา  หรือแม้แต่น้ำหวานหรือไอศกรีมรสมะนาวต้องคอยสังเกตวัตถุดิบที่พ่อค้า – แม่ค้าใช้ดูให้ดี
นี่เป็นเพียงแค่ตัวอย่างส่วนหนึ่งของอาหารที่มีสารปนเปื้อน  ในความเป็นจริงแล้ว  อาหารต่างๆ  ที่ผ่านกระบวนการทางอุตสาหกรรม  และมุ่งหวังผลประโยชน์การค้อเป็นสำคัญ  ล้วนมีสารพิษชนิดใดชนิดหนึ่งที่เจือปนอยู่ทั้งนั้น  นับเป็นเรื่องที่อันตรายเป็นอย่างยิ่งของมนุษย์ยุคปัจจุบันที่ไม่อาจสืบทราบที่มา  ตลอดจนเส้นทางการเดินทางของอาหารที่ตนทานได้
หนทางป้องก้นจึงควรที่จะหลรกเลี่ยงการบริโภคอาหารที่มีสารปนเปื้อน  หรือใช้วิธีการบริโภคอาหารที่มีสารพิษปนเปื้อน  หรือใช้วิธีการรับประทานอาหารเหล่านี้หมุนเนียนสับเปลี่ยนทานอาหารให้ได้หลากหลายประเภทโดยไม่ซ้ำหน้ากันก็จะช่วยลดความเสี่ยงสะสมในการรับและสะสมสารพิษภายในร่างกายลงได้
ส่วนการรณรงค์ให้ผู้ประกอบการ  ลด  ละ  เลิก  การใช้สารเคมีนั้น  เป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลายาวนานครับ
ที่มา : นิตยาสาร BE Well