วันเสาร์ที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2556

การหาสาเหตุจากอาการปวดต่างๆ

การหาสาเหตุจากอาการปวดต่างๆ




 อาการปวด  ไม่ว่าจะเกิดจากสาเหตุใด  ควรได้รับการวินิจฉัย  และรักษาที่ถูกต้อง  โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาการปวดเฉียบพลัน  และรุนแรง  เป็นสัญญาณอันตราย  ที่ต้องใส่ใจอย่างทันท่วงทีเพราะถ้ารอช้า  อาจสายเกินกว่าแพทย์จะช่วยได้ทัน
                          สาเหตุการปวด  มีความหลากหลาย  และละเอียดอ่อน  อาจมีปัจจัยร่วมอยู่หลายอย่าง  การวินิจฉัย  และการรักษาจึงต้องมีขั้นตอนอย่างละเอียดอ่อน  และควรให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้วินิจฉัย
                         อาการปวดทั่วไป  เช่น  ปวดแขน  ปวดในช่องท้อง  ปวดหลัง  ปวดคอ สามารถพบแพทย์เฉพาะระบบ  หรือแพทย์อายุรกรรม  เพื่อรับการวินิจฉัย  และการรักษาเบื้องต้นหากกินยาแก้ปวด  ตามแพทย์สั่ง  หรือพบแพทย์  2  ครั้งแล้ว  อาการยังไม่ทุเลา  ควรได้รับการตรวจเพิ่มเติมโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคปวด  หรือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญระบบประสาทเพื่อวินิจฉัยสาเหตุ  ได้ละเอียดมากยิ่งขึ้น
                     การวินิจฉัยอาการปวดศีรษะ  เป็นความเชี่ยวชาญของแพทย์ระบบประสาทหรืออายุแพทย์ประสาท  ซึ่งได้ศึกษาและให้การรักษาผู้ป่วยโรคนี้จำนวนมาก  แพทย์ก็จะสามารถวินิจฉัยและสาเหตุของอาการปวดศีรษะได้อย่างถูกต้อง
                          ผู้ป่วยบางรายกินยาแก้ปวด  หรือยาคลายเครียดบางชนิด  ติดต่อกันเป็นระยะเวลานานมีผลเสียต่อร่างกาย  ในบางกรณีการกินยาแก้ปวดหรือวาระงับประสาท  ก้เป็นอีกหนึ่งสามารถที่ทำให้อาการุนแรงมากขึ้น และมีผลข้างเคียงอื่นๆอีก
                         หากมีอาการดังต่อไปนี้  ควรพบแพทย์ด่วนที่สุดเพื่อรับการวินิจฉัยหาสาเหตุของอาการให้ถูกต้อง  ปวดศีรษะเฉียบพลัน  ปวดศรีษะร่วมกับอาการดังต่อไปนี้  อาเจียน  มีไข้  คอแข็ง  แขนขาชา  และอ่อนแรง  ตามองไม่เห็น  ผู้ป่วยที่กินยาแก้ปวดมานานกว่า 3 เดือน  แต่อาการไม่ทุเลาหรือหายขาด
                          อาการปวดต่างๆ  หลายคนมองเป็นเรื่องเล็กๆ  เพียงซื้อยาแกปวดตามร้าน  มาทานแล้วก็หาย  แต่ในความเป็นจริงอาจร้ายแรงกว่าที่คิด  โดยเฉพาะกรณีที่มีอาการปวดบ่อยจนเรื้อรัง
                          อาการปวดส่วนใหญ่ของคนไทยเกิดจากการใช้ชีวิตที่ไม่ถูกสุขลักษณะ  ทั้งการกินอาหาร  และการทำกิจกรรมต่างๆ  ผู้ป่วยที่มีอาการปวดจากการทำงานตอนนี้มีมากขึ้น  และน่าเป็นห่วงหากอนาคตคนไทยไม่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น