วันอังคารที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2556

ระวังเป็นโรคลมแดดหน้าร้อน


ระวังเป็นโรคลมแดดหน้าร้อน


แพทย์ ระบุ อากาศร้อนจัดความเสี่ยงยิ่งมาก แนะประชาชนสังเกต 4 อาการเบื้องต้น เหงื่อไม่ออก ตัวร้อนขึ้น หายใจติดขัดอาเจียน วิงเวียนศีรษะ ให้รีบพบแพทย์โดยด่วน ชี้ดื่มน้ำมาก ๆ ลดความเสี่ยงในการเป็นโรคได้
สืบเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลงบ่อยในขณะนี้ ทำให้การปรับตัวในการรับมือกับสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลงของประชาชนในหลายพื้นที่เป็นไปอย่างยากลำบาก สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) จึงได้จัดทำคำเตือนและแนะนำให้ประชาชนรับมือกับโรคที่อาจเกิดขึ้นอย่างปัจจุบันทันด่วนกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงบ่อยในขณะนี้
โดย นพ.อนุชา เศรษฐเสถียร เลขาธิการ สพฉ.กล่าวว่า สภาพอากาศของประเทศไทยในขณะนี้มีความไม่แน่นอนสูง ทั้งร้อน สลับหนาวหรือบางวันก็มีฝนตก จึงทำให้ประชาชนในหลายพื้นที่ไม่สามารถปรับตัวรับกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงบ่อยในขณะนี้ได้
โดยเฉพาะอากาศที่ร้อนจัดอาจจะทำให้ประชาชนเสี่ยงต่อการเกิดโรคลมแดด หรือการเป็นลมจากอากาศร้อน (โรคฮีทสโตรก) ที่เกิดจากร่างกายไม่สามารถปรับอุณหภูมิได้ทันกับการที่ต้องไปอยู่ในสถานที่ที่มีอากาศร้อนจัดอบอ้าว และไม่มีอากาศถ่ายเท รวมถึงการออกกำลังกายในที่ร้อนจัดมาก ๆ ก็จะทำให้เกิดภาวะเสี่ยงต่อการเป็นโรคนี้ด้วย ซึ่งอากาศร้อนในลักษณะนี้นั้นจะทำให้เส้นเลือดส่วนปลายขยายตัวมาก และทำให้ความดันโลหิตต่ำลง จนทำให้เกิดอาการวิงเวียนหน้ามืดและเป็นลมได้
นพ.อนุชา กล่าวอีกว่า โรคนี้สามารถเกิดขึ้นได้แม้กับคนที่ร่างกายแข็งแรง ซึ่งคนที่เป็นลมแดดนั้นสมองจะไม่ทำงาน รวมถึงไม่สามารถควบคุมการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ และอุณหภูมิในร่างกายได้ โดยคนที่เป็นลมแดดนั้นอุณหภูมิในร่างกายจะเพิ่มสูงกว่าปกติถึง 40 องศา ซึ่งเป็นภาวะฉุกเฉินที่ต้องรักษาอย่างเร่งด่วน เพราะมีโอกาสในการเสียชีวิตสูงหากพบแพทย์ไม่ทันท่วงที
ทั้งนี้ ประชาชนต้องเฝ้าสังเกตอาการของตนเองด้วยว่ากำลังจะเป็นโรคลมแดดหรือไม่ โดยอาการเบื้องต้นของโรคนี้คือ
           1. ไม่มีเหงื่อออก
           2. กระหายน้ำมาก
           3. ตัวร้อนขึ้นเรื่อย ๆ
           4. วิงเวียน ปวดศีรษะ มึนงง คลื่นไส้ หายใจเร็วอาเจียน 
หากเกิดอาการดังกล่าวจำเป็นต้องหยุดพักทันทีและรีบโทรแจ้งสายด่วน 1669 เพื่อนำตัวพบแพทย์ทันที
"สำหรับวิธีในการป้องกันตนเองเพื่อไม่ให้เสี่ยงต่อการเป็นโรคลมแดด คือ ควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 6-8 แก้ว และหากท่านต้องทำงานหรือปฏิบัติภารกิจภายใต้อากาศที่ร้อนจัด จะต้องดื่มน้ำให้ได้ชั่วโมงละ1ลิตร และควรเลือกสวมเสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี อาทิ ผ้าฝ้าย พร้อมกับหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่ที่มีแดดแรง ๆ ด้วย" เลขาธิการ สพฉ. กล่าว 
 
แหล่งที่มา :   สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น